简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ตลาด FX เอเชียร่วงหลังรีบาวน์วานนี้ ดอลลาร์ย่อตัวเล็กน้อย
สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ร่วงลงในวันพฤหัสบดีหลังจากทำกำไรจากการปรับขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ในขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนเนื่องจากตลาดวางเดิมพันว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะผ่อนคลายขนาดของอัตราดอกเบี้ย
เงินวอนของเกาหลีใต้ ทำผลงานแย่ที่สุดของวันโดยปรับลดลง 0.7% หลังจากข้อมูลทางเศรษฐกิจแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้ แทบจะไม่ขยายตัวในไตรมาสที่สาม
เศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของเอเชียเติบโตเพียง 0.3% ในไตรมาสเดือนกันยายน ท่ามกลางการส่งออกที่ชะลอตัวและอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น การอ่านค่าแสดงให้เห็นว่าธนาคารแห่งประเทศเกาหลีอาจไม่สามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องได้ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ดีสำหรับเงินวอน
ค่าเงิน หยวนจีน ลดลง 0.5% เนื่องจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า กำไรภาคอุตสาหกรรมของจีนตั้งแต่ต้นปี ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สามในเดือนกันยายน
แต่ค่าเงินหยวนแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันพุธ จากรายงานที่รัฐบาลจีนเข้าแทรกแซงในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเพื่อสนับสนุนค่าเงิน ส่งผลให้ค่าเงินก็เด้งกลับมาจากระดับต่ำสุดในรอบ 14 ปี
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการแข็งค่าของค่าเงินหยวนยังคงถูกจำกัดโดยการต่อสู้ทางเศรษฐกิจของจีน ความแตกแยกที่เพิ่มขึ้นระหว่างอัตราดอกเบี้ยในประเทศและต่างประเทศคาดว่าจะทำให้มีแรงกดดันต่อค่าเงินในระยะสั้น
สกุลเงินเอเชียอื่น ๆ ถอยร่นออกจากการแรลลี่ครั้งล่าสุด รูปีอินเดีย ลดลง 0.3% ในขณะที่ เปโซฟิลิปปินส์ ร่วง 0.2% ทั้งสองสกุลเงินดีดตัวขึ้น 0.7% จากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันพุธ
ค่าเงิน เยน ฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งเมื่อเทียบกับดอลลาร์หลังจากที่รัฐบาลถูกมองว่าเข้าแทรกแซงเป็นครั้งที่สองในตลาดสกุลเงิน ขณะนี้จุดสนใจอยู่ที่การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยจาก ธฯาคารกลางญี่ปุ่น ในวันศุกร์นี้ โดยคาดว่าธนาคารกลางจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำมาก
ดัชนีดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.1% เช่นเดียวกับ ดัชนีดอลลาร์ฟิวเจอร์สแต่สัญญาทั้งสองยังคงเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับต่ำสุดตั้งแต่กลางเดือนกันยายน
ตลาดกำลังเดิมพันว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ผ่อนคลายขนาดของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นแนวคิดที่ทำเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและยังส่งผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐฯ ด้วย
ตลาดยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 75 จุดพื้นฐานในเดือนพฤศจิกายน แต่การเดิมพันว่าธนาคารกลางจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 50 จุดพื้นฐาน ในเดือนธันวาคมนั้นเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ลดลงมาอยู่ที่ 37.730 บาทต่อดอลลาร์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Investing.com
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย