简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ราคาทองคํายังคงเคลื่อนตัวแบบไร้ทิศทางในลักษณะ Sideways Up
ทิศทางราคาทองคํา
ราคาทองคําปิดตัวเท่าเดิม โดยเคลื่อนตัวในกรอบแคบที่บริเวณ 1,798 เหรียญ ขณะที่ เช้านี้ราคาทองคําสามารถกลับมายืนเหนือ 1,800 เหรียญได้อีกครั้ง ด้านค่าเงินบาท กลับมาแข็งค่า โดยเมื่อวานนี้ค่าเงินบาททรงตัวอยู่ที่บริเวณ 34.80 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 34.60 บาทต่อดอลลาร์ ด้านดัชนีดอลลาร์เช้านี้เปิดที่ 104.12 จุด ภาพ รวมดัชนีดอลลาร์ยังคงปรับอ่อนค่าลงเล็กน้อยส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ขณะที่ ตลาดส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ และยุโรปยังคงปิดทําการ เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส สําหรับ ตลาดเอเซียจะหยุดในวันที่ 31 ธันวาคม – 2 มกราคม 2566 เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ วันนี้มี ตัวเลขเศรษฐกิจที่สําคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Goods Trade Balance คาดการณ์จะออก มาเพิ่มขึ้นจากเดิม และ Prelim Wholesale Inventories m/m คาดการณ์จะออกมา ลดลงจากเดิม
วิเคราะห์ราคาทองคําทางเทคนิค
ราคาทองคํายังคงเคลื่อนตัวแบบไร้ทิศทางในลักษณะ Sideways Up วันนี้คาดว่าราคาทองคําจะเคลื่อนตัวในกรอบ แคบโดยมีแนวรับที่ 1,790 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,815 เหรียญ สําหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนว รับ 1,795 เหรียญ และแนวต้าน 1,820 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,800 เหรียญ และแนวต้าน 1,825 เหรียญ สําหรับราคาทองคําไทยมีแนวรับที่ 29,400 บาท/บาททองคํา และมีแนวต้านที่ 29,900 บาท/บาท ทองคํา
โดยเน้นยํ้านักลงทุนว่า ราคาทองคําและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 5 – 10 เหรียญ ดังนั้น การ วิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
บทวิเคราะห์ข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯเท่านั้น และเป็นการวิเคราะห์โดยยึดหลักตาม Technical Analysis ทั้งนี้ บริษัทฯไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น นักลงทุนทุกท่านโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ที่มา TH.investing
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
AvaTrade
GTCFX
GO Markets
IC Markets Global
KVB
ATFX
AvaTrade
GTCFX
GO Markets
IC Markets Global
KVB
ATFX
AvaTrade
GTCFX
GO Markets
IC Markets Global
KVB
ATFX
AvaTrade
GTCFX
GO Markets
IC Markets Global
KVB
ATFX