简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) สหรัฐอเมริกา
รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในภาคการผลิต (Manufacturing Purchasing Manager Index (PMI)) จากสถาบัน Institute of Supply Management (ISM) โดยรายงานนี้จัดทำขึ้นจากข้อมูลการตอบคำถามของผู้บริหารฝ่ายการจัดซื้อและการจัดหา โดยการสอบถามคำถามนี้ได้จัดทำขึ้นแบบรายเดือนในบริษัทกว่า 400 บริษัทในภาคอุตสาหกรรม สำหรับดัชนีแต่ละตัวที่ได้วัดค่า (นั่นก็คือ ดัชนียอดคำสั่งซื้อใหม่ คำสั่งซื้อคงค้าง คำสั่งซื้อใหม่เพื่อการส่งออก การนำเข้า การผลิต การจัดส่งสินค้าของผู้จัดหา สินค้าคงคลัง สินค้าคงคลังของลูกค้า การจ้างงาน และราคา) นั้นรายงานชุดนี้จะแสดงค่าร้อยละที่จะรายงานข้อมูลของการตอบคำถามในแต่ละข้อ ค่าความแตกต่างสุทธิระหว่างจำนวนของคำตอบในทิศทางเศรษฐกิจเชิงบวกและเชิงลบและแสดงดัชนีการกระจาย (diffusion index) การตอบคำถามเหล่านี้เป็นข้อมูลดิบและจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
สามารถตรวจสอบปฏิทินทางการเงิน ได้ที่ WikiFX https://www.wikifx.com/th/live/calendar.html
ดัชนีการกระจายนั้นจะรวมถึงค่าร้อยละของคำตอบในลักษณะเชิงบวกรวมเข้ากับครึ่งหนึ่งของคำตอบที่ตอบคำถามข้อเดียวกัน (ที่ถือว่าเป็นบวก) จากนั้นนำจำนวนตัวเลขดัชนีเลขเดี่ยวที่ได้มาปรับค่าตามฤดูกาลซึ่งเป็นการคำนึงถึงผลของความผันผวนแบบซ้ำๆ ที่เกิดขึ้นภายในปีนั้นที่โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความแตกต่างโดยทั่วไปทางสภาพอากาศ การดำเนินการของหน่วยงานองค์กรที่หลากหลาย และความแตกต่างที่เป็นผลมาจากวันหยุดต่างๆ ที่กำหนดวันแบบคงที่ กระทรวงพาณิชย์แห่งสหรัฐอเมริกาเป็นผู้กำหนดปัจจัยการปรับเปลี่ยนตามฤดูกาลทั้งหมดและในแต่ละปีจะมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงค่อนข้างน้อยจะกระทำในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น
ดัชนี PMI นี้เป็นดัชนีแบบรวมที่ซึ่งยึดตามดัชนีการกระจายต่างๆ ที่ได้ปรับตามฤดูกาลแล้วนั้นจะประกอบไปด้วยตัวบ่งชี้ห้าประเภทที่มีคะแนนถ่วงน้ำหนักที่หลากหลายดังนี้: คำสั่งซื้อใหม่ –30% การผลิต –25% การจ้างงาน –20% การจัดส่งสินค้าของผู้จัดหา –15% และสินค้าคงคลัง –10%
ค่าที่สูงกว่าที่คาดไว้ถือว่าเป็นลักษณะเชิงบวก/ตลาดกระทิงสำหรับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐขณะที่ค่าที่ต่ำกว่าที่คาดไว้ถือว่าเป็นลักษณะเชิงลบ/ตลาดหมีสำหรับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา TH.investing
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forexอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFXเพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูลหมดไส้หมดพุงแอปเดียวที่จบครบ เรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรีโหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย
FXCM
FBS
Pepperstone
FXTM
Markets.com
EC Markets
FXCM
FBS
Pepperstone
FXTM
Markets.com
EC Markets
FXCM
FBS
Pepperstone
FXTM
Markets.com
EC Markets
FXCM
FBS
Pepperstone
FXTM
Markets.com
EC Markets